คาร์เธจผงาดเคียงข้างเอเธนส์และโรมในฐานะศูนย์กลางหลักแห่งหนึ่งของความมั่งคั่งและอำนาจในดินแดนแถบเมติเตอร์เรเนียนสมัยโบราณอันที่จริงนครแห่งนี้แทบจะแทนที่เมืองทั้งสองในฐานะผู้บุกเบิกอารยธรรมตะวันตกทั้งมวลได้ด้วยซ้ำย้อนไปเมื่อ12ปีก่อนคริสตกาลฮันนิบาลแม่ทัพชาวคาร์เธจมีโอกาสทำลายโรมันและเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ได้เกือบสำเร็จแต่คงเป็นชะตากรรมของอาร์เธจที่จะถูกลบออกจากโฉมหน้าของโลกจนหมดสิ้นหลังจากนั้นเพียง7ปีทุกวันนี้นครอันยิ่งใหญ่ซึ่งเคยตระหง่านเหนืออ่าวตูนีเซียหลงเหลือซากอยู่เพียงน้อยนิดกองทัพโรมันทำลายคาร์เธจลงจนราบคาบหลงเหลือเงาแห่งความรุ่งเรืองเพียงเลือนลางซึ่งรวบรวมได้จากงานนเขียนที่เจืออคติและไม่สมบูรณ์ของชาวกรีกและโรมันรวมทั้งจากกผลงานอันอุตสาหะของนักโบราณคดี
เผาผลาญแล้วกำเนิดใหม่ที่ตั้งอันเหมาะสมบนชายฝั่งตูนีเซีย
ทำให้คาร์เธจเป็นทำเลที่ดีสำหรับตั้งถิ่นฐานตลอดมาทุกยุคสมัย
ชาวโรมันซึ่งขึ้นชื่อด้านวิศวกรรม วางท่อน้ำเป็นระยะทาง 820 กม.
เพื่อส่งน้ำจากน้ำพุบนภูเขาซากูอานมายังนครคาร์เธจ
หน้ากากศักดิ์สิทธิ์ผู้ตั้งรกรากชาวฟินิเซียน
ทำหน้ากากจำลองจากแก้วผสมตะกั่ว
เรือรบส่วนใหญ่ของคาร์เธจและโรมันเป็นเรือที่มีฝีพาย 5 แถว
ถังน้ำฉาบปูนสำหรับเก็บน้ำฝน
สุสานโรมันสร้านซ้อนอยู่บนโทเฟ็ตหรือศาสนสถานของคาร์เธจ
ภายในบรรจุอัฐิของเด็กที่ถูกบูชายัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น